รีวิว SEIBU PASS พาสใหม่ที่เอาใจคนชอบเที่ยวธรรมชาติ ไป-กลับได้ใกล้เมืองโตเกียว
หลังจากที่เคยรีวิวรถไฟ Keisei Skyliner ไปแล้ว กระแสตอบรับดีมาก มีคนขอให้รีวิวสายอื่นมั่ง วันนี้ก็ได้มีเวลาและโอกาสลองใช้บริการรถไฟสาย Seibu Railway แล้วว ครั้งนี้เราจะมารีวิว Seibu Pass กันค่าา
ครั้งนี้เอาแบบไปเที่ยวสวยๆ รวยธรรมชาติและวัฒนธรรมที่เมือง จิจิบุ และเมือง คาวาโกะเอะ โดยใช้รถไฟสาย Seibu Railway
เราจะบอกวิธีการซื้อตั๋ว, วิธีเดินทางไปตัวเมืองแบบง่ายๆ และ รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวเล็กๆน้อยๆ อิอิ ขอบอกเลยว่าแต่ละที่ค่อนข้างเด็ดมากกกกก นักท่องเที่ยวยังเข้าไม่ถึงเท่าไหร่ 555555
เพิ่งเคยไปครั้งแรก ใครอยากเพิ่มเติมตรงไหน คอมเม้นมาได้เลยนะคะ
ก่อนอื่น เรามาคุยเรื่อง Seibu Pass กันก่อน มีทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน
・SEIBU 1Day Pass ￥1,000
・SEIBU 2Day Pass ￥2,000
หากต้องการไปสถานีล่องเรือ ซื้ออันล่างนี้เลยก็คุ้ม (รวมแค่ค่ารถไฟไป-กลับ ไม่รวมค่าล่องเรือนะคะ)
・SEIBU 1Day Pass + Nagatoro ￥1,500
・SEIBU 2Day Pass + Nagatoro ￥3,000
ถ้าหากใครอยากไปแค่ Kawagoe เฉยๆ ก็มีพาสเฉพาะให้ ลองดูข้อมูลจากลิ้งค์ได้เลย
ส่วนใครที่อยากไป Chichibu อย่างเดียวก็ลองดูลิ้งค์ที่นี้เลย
เราซื้อแบบ SEIBU 2DAY PASS ราคา 2,000yen ไป เพราะยังไงจะใช้ 2 วันพอดี
>> วันแรกไป เมือง จิจิบุ (Chichibu) และอีกวันไปเมือง คาวาโกะเอะ (Kawagoe) พอดีเป๊ะ!
———————————————————————————————————————–
วิธีซื้อ SEIBU PASS และเดินทางไปเมือง จิจิบุ (Chichibu)
ก่อนอื่นให้เรามาสถานี ikebukuro หาทางออกที่ไป Seibu ikebukuro line จะอยู่ทางออก East ค่ะ
พอไปถึงจะเห็นเคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ SEIBU RAILWAY อยู่ทางซ้ายมือ เคาเตอร์ไม่ใหญ่มาก แต่ก็เห็นค่อนข้างชัดเจนนะ
ที่เคาเตอร์ SEIBU RAILWAY คือดีงามมากกกก พนักงานหน้าตาน่าร้ากกก 555555555 สามารถพูดได้หลายภาษาด้วย ซึ่งเขามีบอร์ดวางไว้ด้านหน้า บอกว่าวันนี้มีพนักงานพูดภาษาอะไรได้บ้าง บางทีเราอาจจะได้เจอพนักงานที่พูดภาษาไทยได้ก็ได้นะคะ อิอิ แต่อย่าเป็นห่วงไป เพราะ แผ่นพับที่วางไว้ก็มีภาษาไทยด้วย อ่านง่าย เข้าใจง่ายอีกก เริ่ดมากค่ะ เราสามารถซื้อพาสได้ที่นี่เลย!!
แล้วนี่ก็คือหน้าตาของบัตร SEIBU 2DAY PASS ราคา 2,000yen
ได้ SEIBU PASS แล้วก็ เช็คตารางรถไฟกันค่ะ
สามารถเช็คได้ที่เว็ปนี้ได้เลย >> (ภาษาอังกฤษ)
เวลาที่เราจะเสริชหาสถานีจิจิบุ ต้องเขียนว่า Seibu-Chichibu นะคะ
ไม่งั้นขึ้นคนละสายรถไฟ เสียเงินเพิ่มเน้ออ ระวังให้ดีล่ะค่ะ
แล้วพาสใบนี้ไม่รวมค่าจองที่นั่ง (Reserved seat)
ดังนั้นหากใครที่ต้องการนั่งรถด่วน ต้องเสียเงินเพิ่มอีก 700yen ค่า
ข้อดีคือ ไปตรงได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนรถไฟ ไม่ต้องกลัวหลงทาง
ส่วนใครไม่อยากเสียเงินก็ต้องเปลี่ยนรถไฟ 1 รอบเท่านั้นเอง
ลองดูจากรูปด้านล่างได้เลยค่า ตอนเช็คเราสามารถเปลี่ยนเวลาที่จะขึ้นได้ด้วยน้าา
หรือจะนั่งแบบปกติ ไม่ด่วน ไม่จองที่นั่ง เวลาต่างกันประมาณ 30 นาทีได้
———————————————————————————————————————–
สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองจิจิบุ (Chichibu, 秩父)
อ้าววว มาถึงนี่แล้ว ทุกก็ต้องถามหาว่า มาแล้วจะเที่ยวที่ไหนดี มีที่ท่องเที่ยวอะไรน่าไปมั่งสินะคะ
มาดูกันเล้ยยยยย
แค่ในตัวสถานีก็สวยงามมากๆแล้ว สามารถซื้อขนมของฝากได้ที่ตรงนี้เลย มีร้านอาหารต่างๆ เรียงรายกันเยอะแยะอีกด้วย แถมมีออนเซ็นในสถานีด้วยนะเออ เริ่ดมากกกกกกก
พอออกมานอกสถานีก็มีแผนที่ภาษาไทยต้อนรับเราเลยค่ะ กดเลือกภาษาอื่นๆได้ด้วย
โหยยย อย่างพร้อมเลยย ชิชิบุกำลังจะทำให้ตัวเองเป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งใหม่แน่นอนน
พวกเราก็ควรจะรีบมาเที่ยวก่อนที่คนจะเยอะเกิน ใครที่เที่ยวในกรุงจนเบื่อแล้ว ก็แนะนำให้มารอบๆเมืองจิจิบุ มาชมธรรมชาติสวยๆดูนะคะ จากโตเกียวมาเช้าเย็นกลับก็ได้ด้วย เดินทางสบายอีก อิอิ
ศาลเจ้าจิจิบุ (Chichibu Shrine, 秩父神社) เป็น Power Spot ที่ใครๆก็ต้องมา
ที่นี่เป็นศาลเจ้าที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่เด่นเรื่องประวัติความเป็นมา
เพราะศาลเจ้านี้มีประวัติมายาวนาน มีมาตั้งแต่ 2,000 ปีก่อนเลยค่ะ
เขาบอกว่า หากร่างกายและจิตใจกำลังอ่อนแออยู่ อย่าเข้าไปในวัดเด็ดขาด
เพราะว่าพลังของเทพเจ้าที่สิงสถิตอยู่นั้น แรงกล้ามากๆ
แต่ละด้านของหลังคาวัดจะมีรูปสัตว์ติดอยู่ ได้แก่ เสือ มังกร นกฮูก และ ลิง 3 ตัว ซึ่งมีเรื่องราวและตำนานแตกต่างกันไป
★ เสือ ตรงด้านนี้มีคำสอนเขียนไว้ เกี่ยวกับคนเป็นแม่ที่ดูแลลูกตนเอง เป็นการสอนแม่คน ว่า อย่าอยู่ห่างจากเด็ก(ทารก) อย่าปล่อยมือเด็ก(เล็ก) อย่าให้เด็ก(โต)คลาดสายตา และอย่าให้หัวใจห่างจากเด็ก(วัยรุ่น)
★ มังกรสีฟ้า ถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่า หางมังกรจะถูกล่ามด้วยโซ่ ตามตำนานกล่าวกันว่า มังกรสีฟ้าได้โผล่ขึ้นมากลางสระน้ำของเมืองจิจิบุ ทำลายข้าวของ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนหวาดกลัว แต่โชคดีที่มีคนมีฝีมือไปปราบมังกร โดยการล่ามโซ่ไว้ ทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุขตั้งแต่นั้นมา
★ นกฮูก ในญี่ปุ่น ถือว่าเป็นสัตว์ที่มีความฉลาดเฉลียว มีตาที่มองเห็นตอนกลางคืนได้ดี และหากสังเกตุดีๆ ตัวของนกฮูกจะหันไปทางทิศใต้ แต่หัวหันกลับมาทางทิศเหนือ หมายถึงว่า ปกป้องเมืองครบทุกทิศ มองเห็นสิ่งไม่ดีก่อนใคร
★ ส่วนลิง 3 ตัว จะเอามือเปิดหู เปิดตา และเปิดปาก (ตรงกันข้ามกับวัดที่นิกโก้เลย) ในวัดนี้เชื่อว่า เราต้องเปิดหูรับฟัง เปิดตามองให้ชัดเจน และเปิดปากพูดในสิ่งที่ดี
พักเบรกกับร้านพุดดิ้งสุดอร่อย เดินออกจากศาลเจ้า แล้วเดินตรงมาเลยย (ถนนตรงข้ามกับศาลเจ้าเลยค่า) เดินตรงมาเรื่อยๆจะเจอร้านนี้อยู่ทางขวามือ
ลองหลายอย่างมาก แต่พุดดิ้งรสเกลือเริ่ดสุด จะบอกว่าอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกก
คือปกติเป็นคนไม่ชอบพุดดิ้ง เพราะเคยกินแล้วกลิ่นเหมือนยา แต่ที่นี่ไม่ใช่เลย ต่างมากๆๆค่ะ อยากซื้อกลับไปเป็นของฝากมากกกก แต่เสียดายที่ต้องแช่ตู้เย็นตลอด ไม่งั้นมีจัดแน่นอน
ต่อไปเราจะไปเมืองใกล้ๆจิจิบุ เมืองนากาโทโร่ (Nagatoro, 長瀞)
โดยนั่งรถไฟไปลงสถานี Nagatoro เลยค่า นั่งไปไม่ไกลมาก บัตรพาสของเราที่ซื้อไม่สามารถใช้ได้ เพราะเป็นคนละสายกัน ทำให้ต้องเสียตังเพิ่มเที่ยวละ 470yen (ไป-กลับก็ 940yen)
แต่ว่าหากใครซื้อ SEIBU 1 or 2Day Pass + Nagatoro ก็ขึ้นรถไฟไปเลยยย ไม่ต้องเสียเพิ่มแล้ว ดังนั้นใครที่จะมาที่นี่แน่ๆ แนะนำให้ซื้อแบบรวมไปเลยค่ะ ถูกกว่าด้วย
เมืองนี้น่ารักมากก สามารถเดินเที่ยวเล่นๆได้ครึ่งวันเลยนะ คือสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่สามารถเดินไปกันได้ แต่บางที่ก็ไกลไปหน่อย แต่ก็เดินไปแล้ว ดังนั้นสามารถเดินได้ไม่มีปัญหาค่ะ 55555
ล่องเรือนากาโทโระไลน์คุดาริ (Nagatoro Line Kudari, 長瀞ラインくだり)
จะบอกว่าสนุกมากกก คือตอนแรกนึกว่าจะน่าเบื่อนิดๆ แต่ที่ไหนได้ดีงามค่ะ
ได้ชมธรรมชาติไปด้วย ได้ซึมซับวิถีการเดินเรือญี่ปุ่นไปด้วยในตัว แถมยังสนุกเวลาที่เรือแล่นเองแบบเร็วๆหน่อยด้วยอะ มีเปียกนิดหน่อย แต่เขามีพลาสติกให้คลุม ถ้าเอาขึ้นมาทันก็ไม่เปียกนะคะ 55555555555
เราได้ล่องเรือคอร์ส A ใช้เวลา 30 นาทีในการล่องเรือ แต่เอาจริงพอนั่งไปแล้ว มันเพลินมากกก คิดว่าเวลาไม่พอด้วยซ้ำ อยากนั่งต่ออีก 55555 และถ้าได้มาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จะสวยเว่อร์มากกก เพราะต้นไม้แทบนี้จะเปลี่ยนสีเป็นสีแดงทั้งหมดเลยล่ะค่ะ
หลังจากล่องเรือเสร็จแล้ว คอร์ส A จะมาจอดตรง “อิวาดาทามิ (Iwadatami Rocks)” เราสามารถปีนขึ้นไปด้านบนชมแม่น้ำที่ล่องมาเมื่อกี้ได้ สวยธรรมชาติมากกกกกกก
หลังถ่ายรูปเล่นเสร็จแล้ว ก็เดินกลับค่ะ เดินขึ้นบันไดไป จะเจอร้านขายของฝาก 2 ข้างทางเลย เดินตรงไปเรื่อยๆ ก็จะถึงสถานีรถไฟเดิมที่เรามา ไม่ยากไม่หลงแน่นอน
หลังจากนั้นก็เดินไปฝั่งตรงกันข้าม เดินไปทางที่เห็นเสาโทริอิ ทางนั้นจะมีร้านคาเฟ่น่ารักๆเยอะแยะเลย
แถบนี้ดังเรื่องน้ำแข็งใสล่ะค่ะ มาแล้วอย่าลืมลองงง บางร้านนี้คนต่อแถวยาวเหยียดเลยยย
นอกจากนั้นยังมีศาลเจ้าและขึ้นกระเช้าไปบนภูเขาด้วย (เดินตรงไปอย่างเดียวก็ถึงศาลเจ้า แต่ค่อนข้างไกลหน่อย เป็นเนินด้วย หากไม่อยากเดินเยอะก็เรียกแท็กซี่ได้ค่ะ น่าจะประมาณ 1,000yen นิดๆนะ)
ทางไปศาลเจ้าและทางขึ้นกระเช้าไปบนภูเขานั้นอยู่ใกล้ๆกันเลยค่ะ ป้ายจะเป็นภาษาญี่ปุ่นสะส่วนใหญ่ ดังนั้นหากใครกลัวเดินหลง เปิด google map เลยก็ดีค่ะ คือมันเหมือนเดินอยู่ในป่าเลยไง ไม่ค่อยมีคนด้วย 5555 แต่วิวสวยดีค่ะ วิวแบบ slowlife มากกกกกก
