ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีวันหยุดสำหรับคู่รักที่เพิ่งแต่งงานใหม่ไปฮันนีมูนได้ทั้งหมด 5 วัน
แต่เพราะความเอาแต่ใจของภรรยา เอ้ยย เพราะค่าตั๋วมันแพง
จี้เลยอยากจะไปสัก 2 อาทิตย์ แต่สามีก็หยุดไม่ได้ ทำให้ต่อรองกันไปมา
สรุป แบ่งกันครึ่งทาง (เอนเอียงมาทางภรรยานิดๆ ฮึฮึ) ทำให้เราทั้งคู่ได้ไปยุโรปทั้งหมด 10 วันล่ะค่าาา เย้ๆๆ
คราวนี้มาถึงขอวีซ่า คนญี่ปุ่นสบายไม่ต้องทำอะไรเลย
แต่จี้คนไทยก็ยังต้องไปขอวีซ่าก่อน เราจะไปกัน 2 ประเทศ ได้แก่
เยอรมัน (สามีอยากไป) และ ฝรั่งเศส (ภรรยาอยากไป)
ดังนั้น วีซ่าที่จี้จะขอคือ เชงเก้นวีซ่า (Schengen Visa) ค่ะ
จี้ไปขอล่วงหน้า 1 เดือนก่อนเดือนทาง กลัวว่าจะมีปัญหาอะไร เลยรีบขอ แฮ่ๆๆ
ข้อมูลเอกสารที่ต้องเตรียมไป ก็ไปสืบเอาจากในเวปสถานทูต
แต่ก็ยังมึนๆงงๆ ก็ไปถามเพื่อนที่เคยไปขอมา ทำให้ผ่านง่ายขึ้นเยอะเลย
วันนี้เลยอยากจะเขียนเรื่อง
“วิธีการขอเชงเก้นวีซ่า (Schengen Visa) ในประเทศญี่ปุ่น”
จี้ไปขอสถานทูตเยอรมันค่ะ เพราะ มีภาษาอังกฤษ!
ส่วนเวปสถานทูตฝรั่งเศสมีแต่ภาษาญี่ปุ่นและฝรั่งเศส
แปลไม่ไหวจริงๆ เห็นแล้วท้อก่อนเตรียมตัวเลย 555555
เอกสารที่ต้องเตรียมไป มีดังนี้
**เอกสารทั้งหมดต้องเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ก็ภาษาเยอรมันนะคะ**
. . . . 1. แบบฟอร์ม
เป็นแบบฟอร์มออนไลน์ค่ะ ทำเสร็จแล้วก็ปริ้นออกมาก เพื่อเอาไปยื่นวันที่ไปสถานทูต
. . . . 2 . รูปขนาด 35mm. x 45 mm. (กว้าง x ยาว) 1 รูป
เรื่องรูปทางสถานทูตค่อนข้างเข้มงวดมากๆ ยังไงลองเข้าไปดูว่าต้องใช้รูปแบบไหนด้วยนะคะ
. . . . 3 . Passport ตัวจริง และสำเนา 1 แผ่น
. . . . 4 . Japanese alien registration card ตัวจริง และสำเนา 1 แผ่น
. . . . 5 . ถ่ายสำเนาสมุดฝากเงินที่มีการเคลื่อนไหวของบัญชี 6 เดือนย้อนหลัง และเอาตัวจริงไปด้วย
คิดว่าข้อนี้ทุกคนน่าจะเป็นกังวลที่สุด จี้คิดว่าถ้ามีเงินเก็บพอกับที่เราไปเที่ยว แค่นั้นน่าจะพอแล้วล่ะค่ะ
. . . . 6 . ประกันที่คุ้มครองอุบัติเหตุ, รักษาพยาบาล, ของหายต่างๆ โดยที่มีค่าคุ้มครองต่ำสุดคือ 30,000 Euros ( หรือ 4,500,000yen ) เอาตัวจริงและสำเนา 1 แผ่น
จี้ทำบริษัททัวร์อยู่แล้ว อันนี้ก็ให้เพื่อนที่ทำงานทำให้ แล้วก็ได้มาเลยค่ะ
. . . . 7 . ใบรับรองการทำงาน, ใบรับรองการเป็นนักเรียน, ถ้าเป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน ให้เอาใบรับรองการทำงานของสามี/ภรรยาไป
ของจี้ใช้ใบรับรองการทำงานให้บริษัทออกให้ โดยจี้ให้บริษัทระบุว่าเราลาหยุดตั้งแต่วันไหน และจะกลับมาทำงานวันไหน
. . . . 8 . สำเนาหลักฐานการจองตั๋วเครื่องบิน, โรงแรม, หรืออื่นๆ
ตรงนี้จี้เตรียมไปแบบเป๊ะมากๆ เขาบอกจี้เลยว่า PERFECT สุดๆ 555555
– ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ — อันนี้จองเองในเนต
– โรงแรมแต่ละคืนที่จะเข้าพัก — คือจองในเนตแล้วก็ปิ้นไปให้เขาเลย ไม่ได้ขอให้ทางโรงแรมส่งเอกสารอะไรค่ะ
– ตั๋วรถไฟข้ามเมืองและข้ามประเทศ — อันนี้ก็จองเองในเนต
– โปรแกรมเที่ยวแต่ละวันว่าไปไหนบ้าง คร่าวๆก็ได้ค่ะ
เอกสารที่จี้ให้เขาไปจะไฮไลน์ชื่อตัวเอง วันที่เข้าพัก และชื่อสถานที่ค่ะ
. . . . 9 . ค่าธรรมเนียมวีซ่า 60 EUR หรือจะจ่ายเป็นเงินเยนก็ได้ เขาจะบอกเรทราคาเองค่ะ
. . . . 10 . สำหรับคนที่ขอที่โอซาก้า – ซองจดหมายสำหรับส่ง Passport ตัวจริงคืน
สำหรับคนที่ขอที่โตเกียว – Letter Pack ( 510 Yen) สำหรับส่ง Passport ตัวจริงคืน
แนะนำว่าให้จด track no. ด้วยนะคะ จะได้เช็คได้ว่า เขาจะส่งกลับมาเมื่อไหร่
เอกสารด้านบนคือ เอกสารที่เราจำเป็นต้องนำไปยื่นที่สถานทูต
ถ้าเกิดใครมีเอกสารที่ต้องการจะยื่นมากกว่านี้ก็ยื่นเพิ่มได้เลยค่ะ จี้เองก็ยื่นเพิ่ม ได้แก่
. . . . 11 . เอกสารแต่งงาน ตัวจริง พร้อมสำเนาที่แปลภาษาอังกฤษ
อันนี้จี้แปลเองเลยค่ะ เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ต้องลงชื่อด้วยว่าใครเป็นคนแปล
. . . . 12 . ใบรับปริญญา ตัวจริง พร้อมสำเนา เป็นภาษาอังกฤษ
มหาลัยจี้ให้มาทั้งภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษอยู่แล้ว อันนี้เลยไม่มีปัญหา
สำหรับจี้ไปยื่นที่ German Consulate Osaka-Kobe ในจ.โอซาก้า
เมื่อเตรียมเอกสารครบแล้ว คิดว่าไม่มีปัญหาแล้วก็ไปสถานทูตได้เลยค่า
ไม่ต้องจองคิวสัมภาษณ์อะไร เดินเข้าไปได้เลย เขาจะแจกบัตรคิวให้เองตรงนั้นค่ะ
แต่ถ้าใครไปสถานทูตเยอรมันที่โตเกียวต้องจองคิวก่อนนะคะ ไม่เหมือนกันนะคะ
ดูเวลาทำการดีๆด้วย เพราะบางวันเป็นวันหยุดราชการของประเทศเยอรมัน เขาก็จะไม่เปิดค่า
อีกนิด เขาเปิดวันจันทร์ – ศุกร์ ตั้งแต่ 9:00－12:00น. เท่านั้นนะ!! ไปสายก็อดเลยจ้าา
รายละเอียดเพิ่มเกี่ยวกับวีซ่าของสถานฑูตเยอรมัน
จี้ไปขอวีซ่าในวันศุกร์ วันอังคารต่อมาจี้ก็ได้ Passport คืนแล้วค่า 2 วันเอง
ถ้าเตรียมเอกสารให้พร้อมก็ไม่ต้องกังวลอะไรเลย การขอเชงเก้นวีซ่าในประเทศญี่ปุ่น ไม่ได้ยากอย่างที่คิด
คราวนี้ก็ถึงเวลาแพ็คของเตรียมไปเที่ยวได้เลยย อิอิ
